วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ข้าวต้มเครื่องชั้นห้าดาว

ถ้าใครเคยรู้สึกอยากทานอะไรร้อน ๆ ตอนค่ำ ๆ ผมมีของดีมาแนะนำ


ข้าวต้มเครื่องเจ้าที่ผมกำลังคิดถึงนี้เป็นเจ้าเก่าแก่ที่ผู้หลักผู้ใหญ่หลาย ๆ คนรู้จัก ใครที่คุ้นเคยกับพื้นที่จากสามย่านถึงหัวลำโพงคงจะร้องอ๋อถ้าเห็นคำว่าสะพานเหลือง เพราะใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้นตอนเย็น ๆ ต้องสังเกตุเห็นว่าริมถนนบริเวณใกล้ ๆ โบสถ์สะพานเหลืองเป็นพื้นที่ที่มีรถราผู้คนพลุกพล่าน นักกินทั้งหลายพอเห็นบรรยากาศอย่างนี้ก็รู้ทันที่ว่าต้องเป็นบริเวณที่ีมีอาหารการกินเยอะแยะแน่นอน

ข้าวต้มร้านนี้ตั้งอยู่ข้าง ๆ ห้องแถวหนึ่งคูหาที่มีป้ายติดประกาศว่า "วิรุฬไอศครีม" เพื่อนกินบางท่านที่กำลังคิดในใจว่า "เอ้อ...แล้วไอศครีมรสชาติเป็นอย่างไรบ้างล่า" อย่าคิดครับ เพราะสิบกว่าปีที่แวะเวียนไปกินข้าวต้มร้านนี้ผมไม่เคยทานไอศครีม หรือแม้แต่จะเห็น
วี่แววของไอศครีมแม้แต่นิดเดียว ผมไม่ทราบว่าเป็นยังไงมายังไงร้านไอติมถึงขายข้าวต้มได้ เอาเป็นว่าข้าวต้มที่ว่านี่อร่อยจนคุณลืมไอติมไปได้เลย

สิ่งแรกที่เพื่อนกินจะได้รับเมื่อเข้าไปนั่งในร้านคือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวหนึ่งถ้วยกับตะเกียบหนึ่งคู่ รายการอาหารอยู่บนผนังเพราะฉะนั้นไม่ต้องถา
มหาเมนูให้เสียฟอร์ม เมนูพื้นฐานที่สุด (และบังเอิญเป็นจาน(ชาม)โปรดของผมพอดี) คือข้าวต้มกุ้งปลาใส่บะเต็ง หรือที่บางท่านอาจเรียกว่าฮื้อแฮ้บะเต็ง
เพื่อนกินท่านอื่นอยากจะเลือกใส่แต่ปลา หรือกุ้งก็ได้ไม่มีใครว่าอะไร หรือจะเลือกใน่อาหารทะเลชนิดอื่น ๆ ก็ได้ เช่น หอยเป๋าฮื้อ และ หอยนางรม นอกจากอาหารทะเลแล้วผมเห็นลูกค้าประจำบางคนสั่งเป็นข้าวต้มใส่เซี่ยงจี๊ ผมเคยลองหนนึงแล้วพบว่าผมกับข้าวต้มเซี่ยงจี๊เข้ากันไม่ค่อยได้เลยไม่ได้สั่งมาทานอีกเลย เพื่อนกินท่านอื่นอาจจะถูกใจก็ได้

แต่ไม่ว่าจะสั่งข้าวต้มชนิดไหนมาทานผมขอแนะนำให้ลองใส่บะเต็งทานดูด้วย อาหารที่ควรจะเรียกเป็นเครื่องเคียงรายการนี้เป็นอาหารง่าย ๆ ที่เพิ่มรสชาติอร่อยให้ข้าวต้มได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าไม่ลองแล้วเสียใจภายหลังจะว่าผมไม่ได้นะครับ

สำหรับเที่พื่อนกินที่ไม่คุ้นทางแต่อยากไปทดลองชิมก็ให้เดินทางตามถนนพระราม 4 จากสามย่านมุ่งหน้าไปทางหัวลำโพง ย่านสะพานเหลืองจะอยู่ระหว่างแยกสามย่านกับสี่แยกบรรทัดทองนั่นเอง ถ้าไม่จำเป็น ผมแนะนำให้นั่งแท็กซี่ไปเพราะอาจจะหาที่จอดรถลำบากหน่อย หรือถ้าจำเป็นต้องขับรถไปแล้วหาที่จอดไม่ได้ ผมแนะนำให้กลับรถตรงแยกไฟแดงถนนบรรทัดทอง ถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามกับร้านมักจะมีที่จอดเสมอ

เรื่องสำคัญเรื่องสุดท้ายก่อนเดินเข้าร้านคือต้องอย่าลืมดูในกระเป๋าสตางค์เสียก่อนว่ามีเงินสดมากน้อยแค่ไหน ข้าวต้มอาหารทะเลราคาชามละ 200 บาท บัตรเครดิตไม่ต้องพูดถึงนะครับ

ร้านเปิดตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำ ๆ ผมแนะนำให้ไปก่อนสามทุ่ม ถ้าไปดึกมากอาจจะไม่ได้กินบางอย่างได้เพราะของบางอย่างอาจหมด

อ้อ...นอกจากข้าวต้มแล้ว จะลองสั่งของกินจากร้านค้าแถวนั้นเข้าไปทานด้วยก็ได้ ของประจำของผมอีกอย่างคือหอยแครงลวก มีทั้งขนาดย่อม ๆ ไปจนถึงใหญ่ ใครชอบระดับความสุกแบบไหนบอกให้ชัดเจนตอนสั่งจะได้ไม่ต้องมีปัญหา จานเล็กทานได้ 1 - 2 คนสนนราคาประมาณ 80 บาท เรื่องท้องไส้หลังทานอาหารแล้วนี่ตััวใครตัวมันนะครับ

3 ความคิดเห็น:

  1. ร้านนี้เคยไปชิม รสชาติแหล่มเชียวละ
    มีร้านข้าวต้มปลาอีกร้านอยู่เยาวราช ชื่อเซียงกี่ (มั้ง??)หร่อยเหมือนกัน ราคาก็ไม่แพ้กันซะเท่าไร แต่ลืมไปแล้วว่าอยู่ช่วงไหน ขอไปรื้อความจำก่อนนะ ไว้จะมาบอกอีกครั้ง

    ตอบลบ
  2. ร้านนี้อร่อยจริงจ้า คุณแม่ทานมาตั้งแต่สมัยเรายังอยู่ในท้องเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว

    ตอบลบ
  3. ร้านเซี่ยงกี่ข้าวต้มปลาน่ะ อยู่หลังโรงแรมไชน่าปริ๊นซ์เซส เด้อค่าเด้อ บอกทางไม่ถูกเพราะส่วนใหญ่มีเพื่อนใจบุญ พาไปกิน อิอิ

    ตอบลบ